อุทยานเกนบุโด

อุทยานเกนบุโดคืออะไร?

เกนบุโด ซึ่งหมายถึงถ้ำหินบะซอลต์หรือถ้ำเต่าดำในภาษาญี่ปุ่น ประกอบด้วยถ้ำ 5 แห่งที่เกิดจากเสาหินรูปหกเหลี่ยมจำนวนมากที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติเมื่อกว่า 1.6 ล้านปีก่อน การก่อตัวทางธรณีวิทยาเช่นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่แมกมาจากการปะทุของภูเขาไฟเย็นลง หดตัว และสร้างรอยแตกแนวตั้ง คอลัมน์คดเคี้ยวรูปทรงเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์เรียงกันเป็นรูปแบบรวงผึ้ง ถ้ำนี้ตั้งชื่อตามสัตว์ในตำนานจีนสี่ชนิด ได้แก่ เก็นบุ (เต่าดำ), เซริว (มังกรฟ้า), เบียกโกะ (เสือขาว) และสุซากุ (นกฟีนิกซ์) มีถ้ำสองแห่งที่ตั้งชื่อตามนกฟีนิกซ์ ซึ่งแยกออกเป็นสุซากุเหนือและสุซากุใต้

เดิมทีถ้ำเกนบุโดเป็นเหมืองหินในสมัยเอโดะ (1603-1867) จึงทำหน้าที่เป็นแหล่งวัสดุก่อสร้างจนทิ้งพื้นที่ที่ถูกขุดไว้ในถ้ำ ซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน สามารถสังเกตเศษหินบะซอลต์ได้ทั่วทั้งบริเวณ ตั้งแต่ทางเดินของอุทยานมา

นอกเหนือจากคุณค่าทางธรณีวิทยาแล้ว หินบะซอลต์ยังมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์อีกด้วย ในปี 1926 โมโตโนริ มัตสึยามะ นักธรณีฟิสิกส์ชาวญี่ปุ่นเสนอทฤษฎีที่ว่าสนามแม่เหล็กของโลกเคยมีการพลิกกลับในอดีต สมมติฐานของเขามีพื้นฐานมาจากการค้นพบว่าแนวขั้วแม่เหล็กของหินบะซอลต์เกนบุโดนั้นตรงข้ามกับขั้วแม่เหล็กของโลกในปัจจุบัน หลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบในเกนบุโดจึงกลายเป็นตัวบ่งชี้ว่ามีการกลับขั้วของสนามแม่เหล็กระหว่างที่หินบะซอลต์ก่อตัว

เดินทางไปเกนบุโดได้อย่างไรบ้าง?

เกนบุโดมีสถานีรถไฟก็จริง แต่นะหว่างสถานีกับตัวอุทยานมีแม่น้ำมารุยามะกั้นอยู่ ทางอุทยานมีบริการเรือข้ามฟากสำหรับคนที่เดินทางมาทางเรือ โดยสามารถโทรจองเรือได้ แนะนำให้โทรมาจองเรือกับอุทยานก่อนที่จะเดินทางมาด้วยรถไฟ ค่าเดินทางไปกลับคือ 700 เยนสำหรับผู้ใหญ่ 400 เยนสำหรับเด็ก และ 200 เยนสำหรับเด็กทารก หากสภาพอากาศแปรปรวนอาจไม่มีเรือบริการ

นอกจากทางรถไฟแล้ว ยังสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ รถเมล์ หรือจักรยานได้

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่เว็บไซต์: https://genbudo-park.jp/